money24

7 วิธีการวางแผนการเงินที่ไม่มีสอนในโรงเรียน

ในระบบการศึกษาของเรา วิชาการเงินมักถูกมองข้าม ทำให้หลายคนต้องลองผิดลองถูกด้วยตัวเองเมื่อเริ่มทำงานหรือใช้ชีวิตอิสระ ซึ่งอาจนำไปสู่ความผิดพลาดที่สูญเสียโอกาสทางการเงินอย่างมหาศาล วันนี้เรามาเรียนรู้ 7 วิธี การวางแผนการเงิน ที่ไม่มีสอนในโรงเรียนกันค่ะ

1.เริ่มต้นออมและลงทุนตั้งแต่อายุยังน้อย

พลังของดอกเบี้ยทบต้นคือเวลา ยิ่งคุณเริ่มออมและลงทุนเร็ว เงินของคุณก็จะยิ่งงอกเงยมากขึ้นเท่านั้น สมมติว่าคุณเริ่มออม 5,000 บาทต่อเดือน ตั้งแต่อายุ 25 ปี ด้วยผลตอบแทน 7% ต่อปี เมื่ออายุ 60 ปี คุณจะมีเงินเกือบ 11 ล้านบาท แต่ถ้ารอจนอายุ 35 ปีค่อยเริ่มออม คุณจะมีเงินเพียง 4.3 ล้านบาทเท่านั้น

2.หัดทำบัญชีรายรับรายจ่าย

การจดบันทึกว่าคุณหาเงินได้จากไหนบ้าง ใช้จ่ายไปกับอะไร ในแต่ละเดือน จะทำให้คุณเห็นนิสัยการใช้เงินของตัวเองชัดขึ้น คุณจะรู้ว่ามีรายจ่ายไหนที่ไม่จำเป็น และควรปรับพฤติกรรมอย่างไร เพื่อเพิ่มเงินออมให้มากขึ้น การทำบัญชีไม่จำเป็นต้องใช้สมุดหรือโปรแกรมอะไรที่ซับซ้อน แค่บันทึกลงบนมือถือหรือสมุดโน้ตเล่มเล็ก ๆ อย่างสม่ำเสมอก็พอ

3. สร้างวินัยการออม ก่อนคิดเรื่องการลงทุน

หลายคนอยากรวยเร็ว จึงพุ่งเป้าไปที่การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง แต่มีความเสี่ยงสูงตาม ซึ่งอาจทำให้สูญเสียเงินได้ง่าย ก่อนอื่นคุณต้องปลูกฝังนิสัยการออมเงินให้เป็นกิจวัตร เก็บเงินส่วนหนึ่งไว้ก่อนเมื่อได้รับเงินเดือน แล้วค่อยนำที่เหลือมาใช้จ่าย เมื่อมีเงินสะสมเป็นก้อนแล้วจึงค่อยศึกษาเรื่องการลงทุน เพื่อให้เงินงอกเงยและชนะเงินเฟ้อ

4. สร้างเครดิตที่ดี โดยการใช้บัตรเครดิตอย่างระมัดระวัง

เครดิตบูโรเป็นประวัติทางการเงินของคุณ ซึ่งธนาคารและสถาบันการเงินจะใช้พิจารณาการอนุมัติสินเชื่อ บัตรเครดิต หรือแม้แต่การซื้อของผ่อนผัน หากคุณใช้บัตรเครดิตใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง เช่น เลือกซื้อของที่จำเป็น ไม่ใช้เกินวงเงิน และจ่ายบิลตรงเวลา คุณจะมีคะแนนเครดิตที่ดี ซึ่งเป็นประโยชน์ในการกู้เงินในอนาคต

5.ใช้ประโยชน์จากประกันชีวิตและประกันสุขภาพ

ไม่มีใครอยากคิดถึงเรื่องเจ็บป่วยหรือเสียชีวิต แต่สิ่งเหล่านี้เป็นความเสี่ยงที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ถ้าไม่มีแผนรองรับ มันอาจทำให้คนที่คุณรักต้องลำบาก ประกันชีวิตจะช่วยคุ้มครองคุณและครอบครัว ด้วยการจ่ายผลประโยชน์เมื่อคุณเสียชีวิตหรือทุพพลภาพ ส่วนประกันสุขภาพจะช่วยลดภาระค่ารักษาพยาบาลหากเกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย โดยคุณจ่ายเพียงเบี้ยประกันรายปี

6.มีเงินสำรองยามฉุกเฉินอย่างน้อย 3-6 เดือนของค่าใช้จ่าย

ให้นึกว่ามันคือเงินที่แตะไม่ได้ นอกจากในกรณีจำเป็น เช่น การว่างงานหรือค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน คุณควรเก็บเงินสำรองนี้ไว้ในบัญชีเงินฝากแยกต่างหาก เพื่อให้หยิบใช้ได้ง่าย แต่ไม่รวมอยู่ในบัญชีเงินเดือนหลัก เพราะจะทำให้คุณใช้ซะก่อน เป้าหมายของเงินก้อนนี้คือการทำให้ชีวิตยังคงดำเนินต่อไปได้ หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน

7.ลงทุนในการพัฒนาตัวเอง

การลงทุนไม่ได้หมายถึงแต่การซื้อทรัพย์สินหรือตราสารทางการเงินเท่านั้น การใช้เงินเพื่อพัฒนาทักษะหรือไอเดียใหม่ๆ ก็ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเช่นกัน อาจเป็นการอ่านหนังสือ เรียนคอร์สออนไลน์ ฝึกอบรม หรือเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ การอัปเกรดตัวเองอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้คุณมีทักษะและความรู้ในการสร้างมูลค่า ทั้งในแง่รายได้และความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน

เป็นอย่างไรบ้างคะกับการวางแผนการเงินที่ไม่มีใครเคยสอนเราในโรงเรียน การจัดการการเงินในโลกความเป็นจริงนั้นต้องใช้ทั้งความรู้และวินัยสูง แต่ถ้าคุณเริ่มต้นทีละขั้นอย่างจริงจัง สักวันหนึ่งคุณจะเห็นความมั่นคงและอิสรภาพทางการเงินรออยู่ข้างหน้าอย่างแน่นอน อย่ารอช้าที่จะหัดฝึกฝนตั้งแต่วันนี้นะคะ

 

ติดตามข่าวสารข้อมูลการเงินเพิ่มเติม
แอดไลน์ 👉  https://lin.ee/KHQgfGs

บทความที่เกี่ยวข้อง

Think of Money ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น
อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)