การเป็นเจ้าของธุรกิจในยุคปัจจุบันนั้นท้าทายและน่าตื่นเต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนรุ่นใหม่ที่มีไฟแรงและความคิดสร้างสรรค์ อย่างไรก็ตาม การจัดการเรื่อง ภาษี นั้นเป็นความท้าทายอีกประการหนึ่งที่คนหนุ่มสาวจำนวนมากมองข้าม ซึ่งการวางแผน ภาษี อย่างรอบคอบสามารถช่วยให้คุณประหยัดเงินได้มากมายและเพิ่มผลกำไรในธุรกิจ
1. เลือกใช้โครงสร้างทางกฎหมายที่เหมาะสม
เช่น บริษัทจำกัด หรือห้างหุ้นส่วนจำกัด ซึ่งจะช่วยให้คุณได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีมากขึ้น
- บริษัทจำกัดจะเสียภาษีในอัตรากำไรสุทธิ 20% แต่สามารถนำเงินปันผลไปเสียภาษีส่วนบุคคลในอัตราที่ต่ำกว่าได้
- ห้างหุ้นส่วนจำกัดสามารถแบ่งผลกำไรสุทธิไปเสียภาษีส่วนบุคคลในอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้
2. นำค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจมาหักลดหย่อนภาษี
ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่าสำนักงาน ค่าอุปกรณ์สำนักงาน หรือค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพื่อธุรกิจ
- ค่าเช่าสำนักงานรายเดือน ค่าไฟฟ้า ค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำประปา สามารถนำมาหักเป็นค่าใช้จ่ายได้ทั้งหมด
- ค่าเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์ เครื่องใช้สำนักงานต่างๆ สามารถนำมาหักค่าเสื่อมราคาได้
3. ลงทุนในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ ๆ
เนื่องจากค่าใช้จ่ายในส่วนนี้สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้
- รัฐบาลให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการลงทุนวิจัยและพัฒนา โดยสามารถนำเงินลงทุนมาหักลดหย่อนได้ถึง 300%
- หากธุรกิจของคุณมีแผนกวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ควรจดบันทึกค่าใช้จ่ายอย่างละเอียดเพื่อใช้สิทธิ์นี้
4. ใช้ประโยชน์จากการลงทุนที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
เช่น การลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) หรือกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
- เงินลงทุนใน LTF สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 500,000 บาท ต่อปี
- เงินสะสมใน RMF สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดปีละ 500,000 บาทต่อบุคคล
5. ถ้าคุณมีพนักงาน ให้พิจารณาจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเพื่อช่วยพนักงานและได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
- กองทุนสำรองเลี้ยงชีพช่วยจูงใจและรักษาพนักงานไว้กับบริษัท พร้อมทั้งให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี
- เงินสมทบกองทุนฯ ของนายจ้าง สามารถนำไปหักเป็นค่าใช้จ่ายได้ 100% แต่ไม่เกิน 10% ของค่าจ้างพนักงาน
6. ให้ความสำคัญกับการบริจาคเพื่อการกุศล
- เนื่องจากเงินบริจาคสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ เงินบริจาคให้องค์กรการกุศล มูลนิธิ และสถานศึกษา สามารถนำมาลดหย่อนภาษีเงินได้ได้ 2 เท่า อย่างไรก็ตาม ต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของรายได้สุทธิประจำปี
7. หากคุณมีรายได้จากการลงทุน อย่าลืมนำผลขาดทุนจากการลงทุนมาหักลดหย่อนภาษีด้วย
- ผลขาดทุนจากการขายหุ้น พันธบัตร หรือการลงทุนอื่น ๆ สามารถนำมาหักกลบกับรายได้จากการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีได้ อย่างไรก็ตาม ผลขาดทุนจะต้องเกิดจากการลงทุนจริง ไม่ใช่การจงใจขายขาดทุนเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี
8. พิจารณาการวางแผนภาษีแบบครอบครัว
โดยการโอนผลประโยชน์ทางภาษีบางส่วนไปยังคู่สมรสหรือบุตร เพื่อลดภาระภาษีโดยรวม
- การโอนเงินปันผลหรือรายได้จากการลงทุนไปให้คู่สมรสหรือบุตรที่มีรายได้น้อยกว่า เพื่อให้อยู่ในเกณฑ์ภาษีที่ต่ำกว่า อย่างไรก็ตาม ต้องเป็นการโอนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่เพียงแค่โอนบนกระดาษเท่านั้น
9. ติดตามกฎหมายภาษีและสิทธิประโยชน์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ
เพื่อให้สามารถวางแผนภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- กฎหมายภาษีมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง มีทั้งการปรับอัตราภาษี เพิ่มหรือยกเลิกสิทธิประโยชน์บางอย่าง
- ติดตามข่าวสารและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีอยู่เสมอ เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง
10. ไม่ควรพยายามหลีกเลี่ยงภาษีโดยวิธีการที่ผิดกฎหมาย
แต่ให้ใช้วิธีการวางแผนภาษีที่ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อลดหย่อนภาษีให้ได้มากที่สุด
- การหลีกเลี่ยงภาษีอย่างผิดกฎหมาย เช่น การปลอมแปลงเอกสารหรือรายงานข้อมูลเท็จ อาจต้องรับโทษทั้งจำคุกและปรับ
- แต่การวางแผนภาษีตามกฎหมายอย่างชาญฉลาด เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการสามารถทำได้เพื่อประหยัดภาษี
การวางแผนภาษีอย่างชาญฉลาดเป็นหัวใจสำคัญในการประสบความสำเร็จของธุรกิจ โดยเฉพาะสำหรับนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่กำลังเริ่มต้นธุรกิจ การปฏิบัติตามวิธีการเหล่านี้อย่างละเอียดรอบคอบจะช่วยให้คุณสามารถลดภาระภาษีได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมทั้งเพิ่มผลกำไรและความมั่งคั่งให้กับธุรกิจของคุณในระยะยาว
รับฟรี e-book
คู่มือการวางแผนการเงิน
ติดตามข่าวสารข้อมูลการเงินเพิ่มเติม
แอดไลน์ 👉 https://lin.ee/KHQgfGs