10 เทคนิคจัดการบัญชีอย่างมืออาชีพสู่ความสำเร็จของบัญชีธุรกิจ

การจัดการบัญชี เป็นองค์ประกอบสำคัญของธุรกิจทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือใหญ่ การบันทึกบัญชีที่ถูกต้องและเป็นระบบจะช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถติดตามสถานะทางการเงิน วิเคราะห์ผลประกอบการ และวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ในฐานะผู้ประกอบการการปฏิบัติตามหลักการบัญชีที่ดีจะเป็นกุญแจสำคัญที่นำพาธุรกิจของคุณไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน

1. จัดระบบบัญชีให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน

  • ใช้แผนบัญชีมาตรฐานกลาง เช่น มาตรฐานการบัญชี (Thai Accounting Standards)
  • กำหนดนโยบายและวิธีการบันทึกบัญชีให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เช่น วิธีการคิดค่าเสื่อมราคา การตีราคาสินค้าคงเหลือ
  • สร้างคู่มือการบันทึกบัญชี เพื่อให้พนักงานทุกคนปฏิบัติตามแนวทางเดียวกัน

ตัวอย่าง : บริษัทอาจจัดทำคู่มือการบันทึกบัญชีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง โดยระบุว่ารายการใดบันทึกเป็นค่าใช้จ่าย รายการใดถือเป็นสินทรัพย์

2. คัดเลือกซอฟต์แวร์บัญชีที่เหมาะสม

  • ประเมินความต้องการของธุรกิจ เช่น ขนาดธุรกิจ ประเภทธุรกิจ จำนวนผู้ใช้งาน
  • เลือกระบบบัญชีออนไลน์ หรือติดตั้งบนเครื่อง โดยพิจารณาต้นทุน ประสิทธิภาพ และความปลอดภัย
  • เปรียบเทียบฟังก์ชั่นของซอฟต์แวร์แต่ละตัว เช่น การบันทึกบัญชี การออกรายงาน การเชื่อมโยงกับโปรแกรมอื่น ๆ

ตัวอย่าง : สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก ซอฟต์แวร์บัญชีแบบคลาวด์อาจเหมาะสม เนื่องจากมีราคาไม่แพงและสามารถใช้งานได้ทุกที่

3. บันทึกรายการอย่างสม่ำเสมอ 

  • บันทึกรายการซื้อ/ขาย ทันทีที่เกิดรายการ โดยไม่รอสะสม
  • บันทึกรายการสำคัญ เช่น ค่าใช้จ่ายเงินเดือน เงินกู้ยืม เป็นประจำตามงวดที่กำหนด
  • ตรวจสอบความถูกต้องของรายการบันทึกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดได้ทันท่วงที

ตัวอย่าง : ธุรกิจขายสินค้า ควรบันทึกยอดขายประจำวันทุกวัน ไม่ควรรวบรวมไว้บันทึกทีหลัง

4. จัดเก็บเอกสารหลักฐานอย่างเป็นระเบียบ

  • จัดทำระบบการจัดเก็บเอกสารที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน
  • แยกประเภทเอกสารอย่างชัดเจน เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี สัญญาจ้าง เป็นต้น
  • จัดเรียงเอกสารตามลำดับเลขที่ หรือวันที่ เพื่อสะดวกต่อการค้นหา
  • เก็บรักษาในสถานที่ปลอดภัยและมีระบบป้องกันความเสียหายจากอุบัติภัย

ตัวอย่าง : บริษัทอาจมีตู้เก็บเอกสารแยกตามประเภท และมีระบบรักษาความปลอดภัย

5. แยกบัญชีส่วนตัวและบัญชีธุรกิจ

  • เปิดบัญชีธนาคารแยกส่วนตัวและบัญชีธุรกิจ  
  • ไม่นำรายรับ-รายจ่ายส่วนบุคคลมารวมในบัญชีธุรกิจ และกลับกัน
  • หากมีการสับสนงบประมาณ ให้บันทึกเป็นรายการเงินกู้ยืมจากส่วนตัว แล้วคืนทีหลัง
  • จัดเตรียมสมุดบัญชีแยกต่างหาก หรือแยกไฟล์เอกสารในซอฟต์แวร์

ตัวอย่าง : เจ้าของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างบางรายอาจใช้เงินของบริษัทไปจ่ายค่าซ่อมบ้าน ซึ่งเป็นรายจ่ายส่วนตัว

6. จัดทำงบกระทบยอดเงินสดประจำเดือน

  • งบกระทบยอดเงินสด คือการเทียบยอดเงินสดในบัญชีกับยอดเงินสดในบัญชีธนาคาร
  • สาเหตุที่ต้องทำ เนื่องจากอาจมีรายการบางรายการยังไม่ได้บันทึกหรือบันทึกผิดพลาด
  • วิธีการทำ ให้ดึงรายงานยอดคงเหลือทางบัญชีและสมุดบัญชีธนาคารในรอบเดียวกัน แล้ววิเคราะห์หารายการผิดแปลก
  • หากมีรายการไม่ตรงกัน ต้องหาสาเหตุแล้วปรับปรุงบัญชีให้ถูกต้อง ที่สำคัญควรทำสม่ำเสมอ อย่างน้อยเดือนละครั้ง

7. ตั้งระบบควบคุมภายในที่ดี

  • กำหนดขั้นตอนการอนุมัติที่ชัดเจนสำหรับรายการสำคัญ เช่น การจ่ายเงิน การสั่งซื้อสินค้า
  • แบ่งแยกหน้าที่ความรับผิดชอบของพนักงานอย่างชัดเจน เช่น แยกผู้มีอำนาจเบิกจ่ายเงิน ผู้บันทึกบัญชี ผู้ตรวจสอบ
  • จำกัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลบัญชีและสินทรัพย์ เช่น ตู้นิรภัย โปรแกรมบัญชี
  • จัดให้มีการสอบทานงานอย่างสม่ำเสมอโดยผู้เชี่ยวชาญภายนอก

ตัวอย่าง : กำหนดให้รายการจ่ายเงินต้องมีการลงนามอนุมัติโดยกรรมการผู้จัดการก่อน

8. วิเคราะห์งบการเงินอย่างสม่ำเสมอ

  • งบการเงินที่สำคัญ ได้แก่ งบแสดงฐานะการเงิน งบกำไรขาดทุน งบกระแสเงินสด
  • วิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงิน เช่น อัตรากำไรสุทธิ, อัตราหมุนเวียนสินค้า, อัตราหนี้สิน
  • ศึกษาแนวโน้มและเปรียบเทียบกับงวดก่อนหน้าหรือคู่แข่งขัน
  • วางแผนกลยุทธ์จากข้อมูลที่วิเคราะห์ได้ เช่น ลดต้นทุน เพิ่มรายได้ ขยายกิจการ

ตัวอย่าง : หากอัตราหมุนเวียนสินค้าลดลง แสดงว่าขายสินค้าได้ช้า ต้องปรับกลยุทธ์ทางการตลาด

9. ปรับปรุงรายการบัญชีทันทีเมื่อพบข้อผิดพลาด

  • สอบทานรายการบัญชีอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง
  • เมื่อพบข้อผิดพลาด ต้องรีบดำเนินการแก้ไขทันที โดยปรับปรุงรายการบัญชีนั้น
  • หากเป็นข้อผิดพลาดสำคัญ ต้องทำการแก้ไขย้อนหลังและปรับปรุงงบการเงิน
  • อย่ารอสะสมปัญหาไว้ เพราะจะยิ่งทำให้ยากต่อการแก้ไข และส่งผลกระทบมากขึ้น

ตัวอย่าง : พบว่าบันทึกยอดขายสินค้าผิดพลาด ต้องรีบแก้ไขยอดขาย ปรับยอดสินค้าคงเหลือให้ถูกต้อง

10. ฝึกอบรมบุคลากรด้านบัญชีอย่างต่อเนื่อง

  • จัดให้มีการฝึกอบรมพนักงานบัญชี ทั้งการอบรมภายในและภายนอก
  • ติดตามความเคลื่อนไหวของมาตรฐานบัญชีและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
  • ส่งพนักงานเข้าร่วมสัมมนา อบรมเพื่อให้ได้รับความรู้ใหม่ๆ อยู่เสมอ
  • สร้างบรรยากาศการเรียนรู้ภายในองค์กร เช่น จัดให้มีห้องสมุดองค์กร

ตัวอย่าง : บริษัทอาจจัดให้มีการสัมมนาภายในเดือนละครั้งเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ใหม่ด้านบัญชี

การนำเทคนิคการจัดการบัญชีเหล่านี้มาใช้อย่างจริงจังจะช่วยให้ธุรกิจของคุณมีระบบบัญชีที่เชื่อถือได้ สามารถนำข้อมูลทางการเงินไปวิเคราะห์และวางแผนกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนของกิจการ

 

รับฟรี e-book
คู่มือการวางแผนการเงิน

ติดตามข่าวสารข้อมูลการเงินเพิ่มเติม
แอดไลน์ 👉  https://lin.ee/KHQgfGs

บทความที่เกี่ยวข้อง

Think of Money ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น
อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)